วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2559

พฤติกรรมลูกค้ายุคดิจิทัล กับการสร้างแบรนด์ที่เปลี่ยนไป

         ปัจจุบัน Branding ก็ยังเป็นเรื่องที่จำเป็น ไม่ต่างจากสมัยก่อน เพราะแบรนด์ก็เป็นเหมือนยอดมงกุฎของการสื่อสารระหว่างผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรากับลูกค้าอยู่ดี สินค้าหรือบริการจะดีหรือแย่ ลูกค้าก็จะจำเรื่องนั้นโดยผูกกับแบรนด์เป็นหลักเหมือนที่ผ่านมาตลอดหลายสิบ หลายร้อยปีของวิชาการตลาด แต่ด้วยเทคโนโลยีและนิสัยคนรุ่นใหม่ๆ ก็ทำให้มีวิธีรับมือแตกต่างกันออกไป

การรักษา Brand Loyalty เดิมที่มีอยู่แล้ว
จุดสำคัญคือวิเคราะห์ว่าอะไรเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนจดจำแบรนด์และรักษาสิ่งนั้นไว้ เช่นแบรนด์โรงพยาบาล อาจจะโดดเด่นที่การบริการ หรือโดดเด่นด้านการรักษาเฉพาะด้าน หรือแบรนด์ร้านขนมที่โดดเด่นในเมนูใด เมนูหนึ่ง ก็รักษาแบรนด์โดยคงคุณภาพด้านนั้นเอาไว้ และนำความถนัดตรงนั้นมาต่อยอดต่อไป


635950806273456481-2097995235_Modern-Workforce-Infographic-2
แต่การขยายฐานลูกค้าออกไป ก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของคน Gen Y, Gen Z

พฤติกรรมของลูกค้ารุ่นใหม่ยุคปัจจุบัน
  • ค้นหารีวิวทุกอย่างก่อนซื้อ ก่อนใช้บริการ เรื่องเล็กๆ อย่างหาร้านอาหาร หรือซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นยังหารีวิวแล้วรีวิวอีก ไม่ต้องคิดถึงของที่มีราคาสูงเลยว่าจะต้องค้นเน็ตจนตาแทบหลุดขนาดไหน
  • แน่นอนว่าต้องเปรียบเทียบราคาในเน็ตก่อน แต่จุดนี้มีข้อแม้คือ ถ้าเป็นของที่เหมือนๆ กัน แทนกันได้ เช่นซื้อน้ำยาล้างจาน ซื้อ iPhone รุ่นเดียวกัน อันนี้ลูกค้าจะเลือกที่ราคาถูกที่สุด แต่ถ้าเป็นของที่เกี่ยวกับจิตใจ และคุณภาพคลุมเครือ ไม่รู้ว่าอะไรดีกว่าแน่ชัด เช่นการเลือกห้องพักโรงแรม การเลือกรักษาพยาบาล หรือการเลือก Smartphone หลายรุ่น หลายยี่ห้อ ลูกค้าอาจจะเลือกที่มีราคาสูงหน่อย เพราะคิดว่าของแพงกว่า ก็น่าจะดีกว่า
  • เหตุผลของการแพงกว่า สามารถตอบความต้องการของลูกค้าได้หรือไม่
    • ดูดีกว่า
    • สะดวกกว่า
    • น่าเชื่อถือกว่า
  • เรื่องนี้ดูที่เหล่าแบรนด์เนมได้ ว่าสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้อย่างไร

สำหรับแบรนด์ใหม่ สิ่งที่ต้องเน้นต้องเริ่มจากความแปลกก่อน

  • แปลกในสักด้านหนึ่ง เช่นแต่งร้านแปลก เมนูแปลก บริการแปลก (ในแง่ดี) เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อดึงคนให้เข้ามามีส่วนร่วม ดึงคนให้มาทดลองใช้ก่อน
  • ก่อนที่จะเริ่มสื่อสารให้เข้าใจว่าจุดเด่น (ที่ยกมาไม่กี่อย่าง) นั้นสำคัญอย่างไร มีความน่าเชื่อถืออย่างไร
  • แต่ความแปลกจะช่วยได้ในระยะแรกเท่านั้น สุดท้ายการที่ลูกค้าจะกลับมาใช้บริการ หรือไม่กลับมาอีกก็อยู่ที่ตัวแปรอีกหลายตัว เช่นคุณภาพ ความคุ้มค่า ภาพลักษณ์ หรือผลิตภัณฑ์/บริการของเรานั้น ที่สำคัญคือช่วยให้ชีวิตลูกค้าง่ายขึ้น ดีขึ้นอย่างไร
  • ซึ่งถ้าตีโจทย์ออก มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แบรนด์เราก็จะเข้าไปยืนในใจลูกค้าได้ในที่สุด
สุดท้ายเรื่องแบรนด์ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญ เพราะลูกค้าจะจำเราง่ายที่สุดจากแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย
ที่มา:https://www.beartai.com/article/tech-article/112422

7 ผักผลไม้

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

การปลูกมะนาว

การปลูกมะนาวสายพันธุ์ที่ดี นอกจากได้ผลผลิตสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดแล้ว ยังสามารถขยายพันธุ์เพื่อจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับผู้ปลูกมะนาวได้อีกทางด้วย ซึ่งวิธีขยายพันธุ์มะนาวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันก็คือการตอน เป็นวิธีที่ง่าย ต้นหนึ่งขยายพันธุ์ได้หลายกิ่ง ใช้เวลาในการพักฟื้นต้นพันธุ์ไม่มาก และที่สำคัญทำให้ได้ต้นพันธุ์ที่แข็งแรง พร้อมนำไปลงปลูกได้ทันที วิธีการเริ่มจากการเตรียมตุ้มตอน นำขุยมะพร้าวแช่น้ำไว้ 2-3 วัน จากนั้นนำขึ้นมาใส่ตะกร้าทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ให้พอหมาด ใช้เมธารัสซิลผสมน้ำในอัตราส่วน 1 ช้อนชาต่อน้ำ 20 ลิตร ราดบนขุยมะพร้าวเพื่อป้องกันเชื้อรา เสร็จแล้วนำมาใส่ถุงมัดไว้รอเพื่อนำไปตอน ซึ่งตุ้มตอนไม่ควรให้มีขนาดใหญ่ เพราะทำให้กิ่งมะนาวรับน้ำหนักมากเกินไปและอาจจะหักได้

                ขั้นตอนต่อมาคือการเลือกกิ่งตอน ควรเป็นกิ่งอ่อนเพราะรากจะเจริญได้เร็ว และนำไปปลูกต่อก็จะเจริญเติบโตได้ดี เช็ดทำความสะอาดบริเวณที่ตอน ซึ่งห่างจากยอดกิ่งประมาณ 30 เซนติเมตร สังเกตใต้ตาใบที่กิ่งจะเห็นเป็นตุ้มซึ่งเป็นแหล่งสะสมอาหาร ให้ควั่นบริเวณใต้ตุ้มดังกล่าว 2 รอยห่างประมาณ 1 เซนติเมตร มีดต้องคมแผลตอนจะได้ไม่ช้ำ พร้อมลอกเปลือกออก ใช้มือลูบเมือกที่แผลออกให้หมด จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 4-5 วัน ผู้ตอนอาจลืมว่ากิ่งไหนควั่นแล้ว อาจผูกเชือกทำเป็นสัญลักษณ์เอาไว้กันลืม ที่สวนคุณวโรชาจะไม่ใช้วิธีการขูดเนื้อเยื่อบริเวณแผลตอน เพราะทำให้แผลช้ำทั้งยังทำให้เกิดการระบาดของเชื้อโรคในสวนขึ้นได้ เนื่องจากเราไม่รู้ว่ากิ่งไหนเป็นโรคอยู่ ซึ่งการตอนอาจนำเชื้อโรคจากต้นหนึ่งไปสู่ต้นอื่นๆ ที่สวนจึงใช้วิธีการควั่นทิ้งไว้เพื่อให้แสงแดดทำลายเนื้อเยื่อและท่อลำเลียงอาหารแทนการขูด และการควั่นทิ้งไว้ยังเหมือนเป็นการแกล้งให้กิ่งมะนาวหิว ให้กิ่งหาอาหารเองซึ่งก็สร้างปมเหลืองๆ ขึ้นมาบริเวณแผลตอน

              เมื่อผูกตุ้มตอนก็ทำให้รากเดินได้เร็วขึ้น หลังจากควั่นทิ้งไว้ 4-5 วัน ก็นำตุ้มตอนมาห่อ โดยผ่ากลางตุ้ม ใช้ปลายมีดเขี่ยกะปิขนาดเท่าหัวไม้ขีดมาใส่ไว้กลางตุ้ม แล้วนำไปมัดไว้ที่แผลตอน มัดด้วยตอกให้แน่น กะปิก็จะกระจายไปทั่วทั้งตุ้ม ซึ่งกะปิก็คือไคโตซาน มีคุณสมบัติเร่งการงอกของรากอีกทั้งยังเป็นอาหารสำรองให้กับกิ่งพันธุ์ด้วย ทำให้กิ่งพันธุ์มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น อีกเคล็บลับหนึ่งสำหรับการตอนให้ได้กิ่งพันธุ์ที่มีคุณภาพก็คือ หากเป็นหน้าร้อนควรหงายให้จุกตุ้มตอนอยู่ด้านบน แต่หากเป็นหน้าฝนให้จุกตุ้มตอนทิ่มลงด้านล่าง ซึ่งทำให้ความชื้นในตุ้มตอนเหมาะสมไม่แห้งหรือแฉะจนเกินไป หลังจากตอนประมาณ 18-25 วัน ก็เริ่มเห็นรากเดินในตุ้มตอน แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวก็ใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ให้ตัดออกมา เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานเกินไปอาจมีปัญหาเชื้อราได้ นำปูนแดงทาไว้ที่แผลกิ่งบนต้นเพื่อป้องกันเชื้อโรค ส่วนกิ่งที่ตัดออกมา นำมาชำไว้ในถุงเพื่อให้รากเจริญเติบโตมากขึ้น โดยแกะพลาสติกที่ตุ้มตอนออก คลึงเบาๆ เพื่อให้ขุยมะพร้าวที่รัดแน่นขยายออก และเหมือนเป็นการนวดเพื่อให้รากในขุยมะพร้าวแผ่ออกด้วย จากนั้นนำวัสดุชำใส่ถุงดำขนาด 5×6 นิ้ว ประมาณครึ่งถุง นำกิ่งพันธุ์ลงถุงแล้วใส่วัสดุปลูกให้พอดีกับคอตุ้มตอน รดน้ำที่ผสมเมธารัสซิล (1 ช้อนชาต่อน้ำ 20 ลิตร) ประมาณ 1 แก้ว นำไปพักไว้ที่ที่มีแสงแดดรำไร ประมาณ 2 สัปดาห์ก็สามารถนำไปลงปลูกในดินได้ แต่ไม่ควรปล่อยกิ่งพันธุ์ไว้ในถุงชำนานเกินไป  เพราะทำให้รากขดงอ เมื่อนำไปลงปลูกทำให้เจริญเติบโตไม่ดีเท่าที่ควร ผู้ที่ปลูกมะนาวควรศึกษาเทคนิควิธีการปลูกและการดูแลมะนาวจากหลายๆ แห่ง ที่ประสบความสำเร็จ แล้วนำมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับตัวเอง เพราะการเกษตรไม่มีอะไรตายตัว สามารถปรับเปลี่ยนและพัฒนาได้เสมอ
                                                                                       ข้อมูล : เกษตรกรก้าวหน้า  ที่มา มติชนออนไลน์


อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.kroobannok.com/article-78211-เคล็ดไม่ลับ--วิธีตอน-มะนาว-ด้วย-กะปิ-ได้กิ่งพันธุ์ดี-เป็นที่ต้องการ.html